การต่อสู้ ของ เซด อัชชะฮีด

เมื่อเซดทราบว่ายูสุฟ บินอุมัรเจ้าเมืองอิรัก ได้ประกาศให้ตามจับตน อีกทั้งยังทราบมาว่า ชายสองคนซึ่งเป็นพรรคพวกของตน ถูกทางการจับแล้วนำไปฆ่า เซดจึงรีบสั่งให้ลุกขึ้นต่อสู้ก่อนเวลาที่เคยกำหนดไว้กับไพร่พลในหัวเมืองอื่น ๆ โดยให้มีการปฏิวัติในคืนวันที่ 1 เดือนศอฟัร ปี ฮ.ศ. 122 (อังคาร ที่ 5 มกราคม ค.ศ. 740) ซึ่งตรงกับคืนวันอังคาร ทว่าก่อนที่ทัพของเซดจะออกศึก อัลฮกัม อิบนุศศ็อลติ ได้รวบรวมชาวเมืองกูฟะหฺให้เข้าไปในมัสยิดใหญ่ในเมืองแล้วให้ทหารล้อมไว้เป็นเวลาสามวันสามคืน โดยให้ทุกคนพาเสบียงอาหารไปด้วย

ในวันอังคาร อัลฮะกัม อิบนุศศ็อลติ ได้สั่งให้ปิดตลาดและปิดประตูมัสยิดขังผู้คนไว้ในนั้น หลังจากนั้นก็ส่งจดหมายไปแก่เจ้าเมืองอิรัก ซึ่งตอนนั้นอยู่ในเมืองฮัรเราะหฺ ให้ทราบข่าวคราวความคืบหน้าของการปฏิวัติ เพื่อจะได้จัดการต่อต้าน เจ้าเมืองอิรักจึงส่ง ญะอฺฟัร อิบนุลอับบาส อัลกินดีย์ พร้อมกับทหารม้า 50 คน เพื่อศึกษาสถานการณ์ในเมืองกูฟะหฺ

ในคืนอังคารนั้น พวกทหารของเจ้าเมืองก็ได้บุกเข้าไปในบ้านของ มุอาวิยะหฺ บินอิสฮาก บินเซด บินฮาริษะหฺ อัลอันศอรีย์ แต่ก็ไม่พบเจ้าตัว

เช้าวันพุธ เจ้าเมืองอิรักก็ออกไปที่เนินเขา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก อัลฮีเราะหฺ โดยมีเหล่าผู้นำแห่งกุเรชและเผ่าอื่น ๆ ตามไปด้วยราว 200 คน ในวันเดียวกันนี้ เซดได้ส่งอัลกอซิม บินกะษีร อัลอัฎรอมีย์ และศ็อดดาม ให้ออกไปตะโกนในเมืองว่า "ยา มันศูร อะมิด" แต่ก็พบกับ ญะอฺฟัร อิบนุลอับบาส อัลกินดีย์ และพรรคพวก จึงเกิดการต่อสู้กัน จนศ็อดดามถูกฆ่า และกอซิมนั้นก็ถูกจับตัวไปให้แก่ อัลฮะกัม อิบนุศศ็อลติ เมื่อถูกไต่ถาม อัลกอซิมไม่ยอมตอบจึงถูกนำไปตัดคอที่หน้าจวนเจ้าเมือง

ในวันแห่งการต่อสู้นั้นมีผู้คนที่ยังยืนหยัดอยู่กับเซดเพียง 218 คนเท่านั้น เซดจึงถามว่า "พรรคพวกของเราไปไหนกันหมด?" ก็มีผู้ตอบว่า "ถูกขังอยู่ในมัสยิดใหญ่" เซดกล่าวว่า "ขอสาบาน สิ่งนี้ไม่ใช่ข้ออ้างที่ดีสำหรับผู้ที่ได้ให้คำสัตยาบันต่อเรา"

ส่วน นัศรุ บินคุซัยมะหฺ และพรรคพวกเมื่อได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกก็ออกไปดู จึงเห็น อัมรุ บินอับดิลเราะฮฺมาน ซึ่งเป็นศอฮิบ อัชชุรเฏาะหฺ (ผู้กอง) ของ อัลอะกิบ อิบนุศศ็อลติ และตำรวจอีกหลายนาย ก็เกิดการปะทะกันจน ผู้กองนั้นถูกฆ่าตาย และเหล่าตำรวจนั้นก็หนีไปหลังจากนั้น นัศรุและไพร่พล ก็เข้ารวมกับกองทัพใหญ่ภายใต้การนำของเซด ซึ่งกำลังต่อสู้กับกองทัพที่มาจาก ซีเรีย มีไพร่พลทั้งหมด 500 คน เซดและพรรคพวกก็เข้าโจมตีกองทัพนี้จนพ่ายแพ้หนีไป

เซดได้นำทัพผ่านบ้านของ อะนีซ บินอัมริ ที่เคยให้คำสัตยาบัน ว่าจะร่วมต่อสู้ จึงเรียกให้ออกมาร่วมทัพ แต่ชายคนนี้ก็ไม่ยอมออกมาเซดได้นำไพร่พลจนกระทั่งถึงสถานที่หนึ่งที่ชื่อ อัลกันนาซะหฺ ซึ่งเป็นใจกลางเมือง ที่นั่นมีกองทหารจากซีเรียตั้งทัพอยู่ เซดและพรรคพวกจึงบุกเข้าโจมตี จนกระทั่งพวกทหารซีเรียแตกทัพหนีไป

หลังจากนั้นเซดก็นำทัพ ออกจากเมืองจนกระทั่งมาถึงที่ อัลญะบานะหฺ ซึ่งอยู่ระหว่างเมืองฮีเราะหฺและกูฟะหฺ จึงแลเห็น ยูซุฟ บิน อุมัร เจ้าเมืองอิรัก ที่รออยู่บนเนินเขา เซดพยายามจะบุกขึ้นเนินเขาเพื่อเข้าโจมตีเจ้าเมืองและพวกทหารบนเนิน แต่ไม่อาจจะทำได้ เพราะว่า ร็อยยาน บินสะละมะหฺ นำกองทัพจากซีเรียบุกโจมตีเข้ามาด้านหลัง

เซดจึงนำทัพเข้าเมืองกูฟะหฺอีกครั้ง แล้วต่างคนต่างก็แยกเข้าเขตต่าง ๆ ในเมือง จนกระทั่งปะทะกับกองทหารม้าของเจ้าเมือง กองทหารของเซดต่างก็หนีเข้าซอย เหลือเพียงชายคนหนึ่งไม่ทราบชื่อ เข้าไปในมัสยิดหลังหนึ่งแล้วนมาซสองร่อกอัต หลังจากนั้น ก็ออกมาต่อสู้กับพวกทหาร แล้วถูกทหารคนหนึ่งใช้เสาตีจนเสียชีวิต

ส่วนพวกที่หนีเข้าซอยนั้นก็ออกมาต่อสู้กับทหารของเจ้าเมือง สมาชิกของเซดคนหนึ่งได้วิ่งเข้าไปในบ้านของ อัลดุลลอหฺ บินเอาฟิ พวกทหารจึงบุกเข้าไปในบ้านแล้วนำตัวเขาไปพบกับเจ้าเมือง เจ้าเมืองจึงสั่งให้ฆ่าชายคนนี้เสีย นัศรุ บินคุซัยมะหฺ ได้แนะนำให้เซดนำไพร่พลไปที่มัสยิดใหญ่เพราะที่นั่นมีชาวเมืองกูฟะหฺ ถูกกักขังอยู่ เซดกล่าวว่า "พวกเขาทรยศอย่างที่เคยทำกับ ฮุเซน ในอดีต" นัศรุ จึงกล่าวว่า "ส่วนฉันก็จะต่อสู้อยู่กับท่านด้วยดาบนี้ จนกว่าฉันจะถูกฆ่า"

ในขณะที่เซดนำพรรคพวกเข้าใกล้มัสยิดใหญ่นั้น อุบัยดุลลอหฺ อิบนุลอับบาส อัลกินดีย์ ได้เห็นเข้าจึงนำทัพเข้าโจมตีทัพของเซด จนมีการปะทะกันที่หน้าประตู อุมัร บินสะอัด บินอะบีวักกอศ แต่ทัพของอุบัยดุลลอหฺ ก็พ่ายแพ้ มีทหารล้มตายมากมาย อุบัยดุลลอหฺเองและทหารที่เหลือก็หนีจนกระทั่งถึงบ้าน อัมรุ บินฮะรีษ ที่อยู่ในเขต อัซซับเคาะหฺ ใกล้กับมัสยิดใหญ่

เช้าวันพฤหัสบดี วันที่ 3 ศอฟัร เจ้าเมืองได้สั่งให้ อัลอับบาส บินซะอีด อัลมุซนีย์ ผู้เป็น ศอฮิบ อัชชุรเฏาะหฺ (ผู้กอง) ให้นำกำลังพลไปโจมตีเซดและพรรคพวก ใน ดาร อัรริซกิ จึงเกิดการปะทะกันระหว่างสองฝ่าย นัศรุ บินคุซัยมะหฺ อัลอับสีย์ และ มุอาวิยะหฺ บินอิสฮาก อัลอันศอรีย์ ประกบคุ้มครองเซดอยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงทางเดินที่เต็มไปด้วยไม้และเศษไม้ อัลอับบาส ก็ตะโกนสั่งให้ทหารของพวกตนลงจากหลังม้า นาอิล บินฟัรวะหฺ ฟันขาอ่อนของ นัศรุด้วยดาบจนได้รับบาดเจ็บ นัศรุเองก็ฆ่านาอิล ไพร่พลของอัลอับบาส ถูกฆ่าตายประมาณ 70 คน ที่เหลือก็หนีไป

เวลาบ่ายของวันเดียวกัน เจ้าเมืองได้ส่งกำลังพลไปโจมตีเซดและพรรคพวกอีก จนมีการปะทะกันอย่างรุนแรงอีกครั้ง แต่ทหารของเจ้าเมืองก็พ่ายแพ้อีกตามเคย เซดและพรรคพวกจึงไล่ตามพวกทหารเหล่านั้น จนกระทั่งถึงเขตของตระกูลสะลีม และไล่ตามพวกเขาจนถึงสถานที่หนึ่งระหว่างบาริกและรุอาซ แล้วก็มีการต่อสู้กันที่นั่นอีกครั้ง ในการต่อสู้ที่อัซซับเคาะหฺนั้น ผู้คนเห็นเมฆสีเหลืองติดตามเซดตลอดเวลาที่เขาเคลื่อนย้าย

ในขณะที่ต่อสู้อยู่นั้น ทหารม้านายหนึ่งจาก ตระกูลกัลบิ ได้ด่าทอท่านหญิงฟาฏิมะหฺ เซดได้ยินก็โกรธเป็นอย่างยิ่ง จนร้องไห้จนน้ำตาชุ่มเครา จึงหันหน้าไปทางพรรคพวก แล้วถามว่า "ไม่มีใครเลยหรือที่จะโกรธเพื่อฟาฏิมะหฺ ไม่มีใครเลยหรือที่จะโกรธเพื่อศาสนทูตของอัลลอหฺ ไม่มีใครเลยหรือที่จะโกรธเพื่ออัลลอหฺ" ทหารม้าคนนั้นลงจากหลังม้าเปลี่ยนไปขี่ล่อ สะอีด บินคอยษัม จึงใช้ดาบสั้น ตัดคอทหารคนนั้น จนกระทั่งศีรษะหล่นตกลงมาข้างหน้าล่อ พวกทหารต่างก็เข้ารบหมายฆ่าสะอีด แต่พรรคพวกของเซดก็เข้าปกป้องสะอีด สะอีดจึงขี่ล่อของชายนั้นเข้ามาหาเซด เซดจึงจูบสะอีดที่ดั้งจมูก แล้วกล่าวว่า "ขอสาบาน ขอสาบานด้วยอัลลอหฺ ท่านได้ทำถูกต้องกับการแก้แค้นของเราแล้ว ขอสาบานด้วยอัลลอหฺ ท่านได้ประสบกับเกียรติคุณแห่งโลกนี้และโลกหน้า และขุมทรัพย์ของมันทั้งสองแล้ว" ว่าแล้วก็มอบล่อตัวนั้นให้แก่สะอีด

เซดนำพรรคพวกมาถึงที่สะพานแล้วกล่าวต่อพรรคพวกว่า "หากฉันรู้ว่ามีการกระทำความดีที่ดีกว่าการฆ่าฟันพวกนี้ ฉันก็คงทำไปแล้ว ฉันเคยห้ามไม่ให้พวกท่านไล่ตามทหารที่หนี อย่าฆ่าฟันคนที่ได้รับบาดเจ็บ อย่าเปิดประตูที่ปิด แต่นี่ฉันได้ยินพวกเขาด่าทออะลีย์ ดังนั้น พวกท่านก็จงฆ่าพวกเขาทุกด้าน ..."

การต่อสู้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม เหล่าม้าของทหาร หวาดกลัวต่อม้าของเซดและพรรคพวก ทำให้กองทัพทหารระส่ำระสายอัลอับบาส บินสะอีด อัลมุซนีย์ จึงขอให้เจ้าเมืองหนุนกำลังพลและกำลังม้า เจ้าเมืองจึงสั่งให้ สุลัยมาน บินกีซาน อัลกัลบีย์ นำทหารจากเมืองก็อยกอนและบุคอรอเข้ามาหนุน เซดและพรรคพวกพยายามต่อสู้กับทัพหนุนนี้ แต่ไม่สามารถเอาชนะได้ มุอาวิยะหฺ บินอิสฮาก ที่คอยปกป้องเซด ก็ถูกฆ่า